ผลสำรวจทัศนคติต่องานบ้านของผู้ชาย
(เผยแพร่บทความเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2562)
ผลสำรวจความคิดเห็นต่อการทำงานบ้านของกลุ่มผู้ชายอายุ 18-50 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จำนวน 1,995 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-14 พ.ย.62 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อายุระหว่าง 18-23 ปี 30.8% รองลงมาคือ อายุ 24-29 ปี 28.9% ถัดมาคือ อายุ 30-34 ปี 14.1% อายุ 42-47 ปี 10.6% อายุ 36-41 ปี 8.1% อายุ 48 ปีขึ้นไป 8%
ผู้ชายส่วนใหญ่กว่า 54.9% มองว่าผู้ชายช่วยงานบ้านเป็นเรื่องที่ควรภาคภูมิใจ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ขณะที่ 53.5% มองว่าผู้หญิงที่ดีต้องทำงานบ้าน เป็นแม่ศรีเรือน อย่าให้บกพร่อง และกว่า 47% มองว่าผู้ชายมีหน้าที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ผู้หญิงมีหน้าที่ทำงานบ้านเลี้ยงลูก ที่น่าห่วงคือ 1 ใน 3 หรือ 37.5% มองว่าแม้ผู้หญิงจะทำงานนอกบ้าน แต่งานบ้านก็ยังเป็นของผู้หญิงอยู่ดี อีกทั้ง 33.2% ระบุว่า งานบ้านไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชายแต่เป็นหน้าที่ของผู้หญิง
ผู้ชายกลุ่มตัวอย่าง 74.2% มองว่าครอบครัวมีส่วนช่วยในการปลูกฝังเรื่องการทำงานบ้านและสร้างทัศนคติที่ดีเรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศตั้งแต่เด็ก ๆ และกว่า 73.3% มองว่าถึงเวลาเปลี่ยนแปลงให้งานบ้านเป็นงานของทุกคน และสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย
จากผลสำรวจสะท้อนว่า ผู้ชายบางส่วนยังมีความเชื่อว่า งานบ้านเป็นหน้าที่ผู้หญิง ซึ่งสาเหตุมาจากความคิดแบบชายเป็นใหญ่ ถูกบอกถูกสอนว่าผู้ชายต้องเป็นผู้นำ ส่วนผู้หญิงต้องทำงานบ้าน เลี้ยงลูก หากปล่อยให้ผู้ชายทำจะเสียศักดิ์ศรี ดังนั้น คงต้องเริ่มจากจุดนี้ ให้เขามองว่าการทำงานบ้านผู้ชายต้องทำได้ มันไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายหญิงฝ่ายเดียว ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน เพื่อทำให้ปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรงในครอบครัวลดลง
......
ดาวน์โหลดผลสำรวจฉบับเต็มที่นี่