แชร์

คำสอนที่ทำให้ผู้หญิงกลายเป็นฝ่ายต้องปกป้องตัวเอง แทนที่จะปลี่ยนทัศนคติผู้กระทำ

อัพเดทล่าสุด: 13 มิ.ย. 2024
1394 ผู้เข้าชม

(เผยแพร่บทความเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2565)

“อย่านุ่งสั้น อย่าแต่งโป๊ อย่าทำตัวล่อเสือล่อตะเข้” เราน่าจะได้ยินประโยคทำนองนี้ในทุกเทศกาล ประโยคของความห่วงใยที่แฝงด้วยทัศนคติแบบชายเป็นใหญ่ ที่ยังสลัดไม่หลุดจากสังคมไทยเสียที “นิสัยผู้ชายก็แบบนี้ ผู้หญิงสิต้องป้องกันตัวเอง” กลายเป็นว่าผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายปกป้องตัวเองไปเสียนี่

เรื่องการแต่งตัวเป็นเรื่องของบุคคลที่เราไม่ควรไปก้าวล่วง ในขณะที่รากของปัญหานี้แท้จริงไม่ได้เกิดจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่เกิดจาก “อำนาจชายเป็นใหญ่” นิทรรศการ Don’t tell me how to dress ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นกว่า การถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครื่องแต่งกาย หลายชุดปกปิดมิดชิด ชุดแม่บ้าน เสื้อยืด กางเกงยีนทั่วไป ชุดที่ใส่ในชีวิตประจำวัน

“อย่าโยนตราบาปนี้ให้กับผู้หญิง” วิธีคิดของสังคมไทยที่มักกล่าวโทษผู้ถูกกระทำ “แต่งตัวโป๊” “ไม่ระวังตัวเอง” “ดื่มจนเมา” แต่กลับไม่ตั้งคำถามกับ “ผู้กระทำ” ทำให้เมื่อเกิดการล่วงละเมิดทางเพศ ผู้หญิงไม่กล้าออกมาเรียกร้องความถูกต้อง เพราะกลัวสังคมมองว่าเป็นคนไม่ดี หรือถูกด้อยค่า ทั้งที่ความจริงแล้วการแต่งกายคือสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ไม่ใช้ข้ออ้างให้ล่วงละเมิดทางเพศได้

รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวไว้ในงานเสวนา “ส่องมายาคติ กระบวนการยุติธรรม กับการคุกคามทางเพศ” เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 65 ว่า “จากงานวิจัยเรื่องเพศวิถีในคำพิพากษากับการลงโทษผู้เสียหายในกระบวนการยุติธรรม สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นให้เห็นจำนวนมาก เพราะอคติยังอยู่ในสังคม และยังมีความเข้าใจแบบถูกฝังหัวมาว่าผู้หญิงถูกข่มขืนเพราะการแต่งกาย ทั้งที่เป็นสิทธิที่ควรได้รับการปกป้อง”

ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกัน สังคมมองว่าผู้ชายมีนิสัยแบบนี้ ห้ามไม่ได้ เลยโยนให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายปกป้องตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นคือทำให้ผู้ที่ถูกล่วงละเมิด มองว่าตัวเองมีส่วนผิดเพราะแต่งกายล่อแหลม หรือไปในที่เปลี่ยว

ถึงเวลานี้แล้ว เราต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด หยุดส่งต่ออำนาจชายเป็นใหญ่ และหันมาแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เลิกกล่าวโทษผู้ถูกกระทำ เลิกพูดว่าการแต่งกายก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศได้แล้ว


บทความที่เกี่ยวข้อง
บทสัมภาษณ์ คุณอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ในงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย. ของทุกปี “Bring Back 2nd Chance of Life” คืนโอกาสดีๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสท
บทสัมภาษณ์ คุณอังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ในงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย. ของทุกปี “Bring Back 2nd Chance of Life” คืนโอกาสดีๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง
17 ธ.ค. 2024
บทสัมภาษณ์ คุณทสร บุณยเนตร (Chief Creative officer) ผู้แทน บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด ในงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย. ของทุกปี “Bring Back 2nd Chance of Life” คืนโอกาสดีๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่
บทสัมภาษณ์ คุณทสร บุณยเนตร (Chief Creative officer) ผู้แทน บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด ในงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย. ของทุกปี “Bring Back 2nd Chance of Life” คืนโอกาสดีๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง
17 ธ.ค. 2024
บทสัมภาษณ์ คุณชนกนันท์ ปรีดาเจริญ หรือ มินนี่ ญาติผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในคู่รัก ในงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย. ของทุกปี “Bring Back 2nd Chance of Life” คืนโอกาสดีๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่
บทสัมภาษณ์ คุณชนกนันท์ ปรีดาเจริญ หรือ มินนี่ ญาติผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในคู่รัก ในงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ประจำปี 2567 ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย. ของทุกปี “Bring Back 2nd Chance of Life” คืนโอกาสดีๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง
17 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy