แชร์

การควบคุมที่มาจาก “อำนาจ” ที่ไม่เท่ากันในความสัมพันธ์ นำไปสู่ความรุนแรงในครอบ

อัพเดทล่าสุด: 13 มิ.ย. 2024
1077 ผู้เข้าชม

"แรก ๆ ก็พูดจาไม่ค่อยดี ทำให้รู้สึกไม่มีค่า หนักเข้าก็เริ่มลงไม้ลงมือ ยิ่งกินเหล้า ยิ่งหนัก นี่คือรูปแบบของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่ผู้หญิงหลายคนระบายออกมาให้เราได้ฟัง การทำให้รู้สึกไม่มีค่า หรืออยู่ในการควบคุม เป็นหนึ่งในการใช้อำนาจเหนือของอีกฝ่าย จากครั้งแรก สู่ครั้งต่อไป และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"

จากข่าวความรุนแรงในครอบครัวที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเก็บรวบรวมเป็นประจำทุกปี พบว่า ปี 2565 มีจำนวน 1,131 เหตุการณ์ สูงขึ้นจากปี 2564 ถึง 3 เท่า โดยพบว่า 30.7% มีสุราเป็นตัวกระตุ้น และ 24% เป็นยาเสพติด หากแยกประเภทของความรุนแรงจะพบว่า 47.2% เป็นข่าวฆ่ากันตายในครอบครัว และ 28.6% เป็นข่าวทำร้ายกัน ในขณะที่การฆ่ากันตายในครอบครัวเกิดขึ้นระหว่างสามีภรรยา 39.9% ในจำนวนนี้เป็นกรณีที่สามีฆ่าภรรยาถึง 73.7% ส่วนสาเหตุเชื่อว่าหลายคนพอจะเดากันได้ หึงหวง ระแวงว่าภรรยานอกใจ 55% ง้อไม่สำเร็จ 26.9% วิธีการที่ใช้มากสุดคือ ปืนยิง 53.4% ใช้ของมีคม 29.3% และตบตีทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต 7.5%

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนสถานการณ์เพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่ได้ถูกนำเสนอผ่านหน้าข่าว หากถามว่าทำไมสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวถึงไม่ลดลง ทั้ง ๆ ที่สังคมออกมาเรียกร้องและมีความเข้าใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิต่าง ๆ มากขึ้น คงตอบได้ว่า ใช่ แต่ยังไม่มากเพียงพอที่จะทำให้ปัญหานี้ลดลงได้ เราต่างก็อยู่ในสังคมที่คุมชิ้นกับคำว่า อำนาจ กันเป็นอย่างดี ในแง่มุมของความสัมพันธ์ ผู้ที่มีอำนาจเหนือกลายเป็นผู้ที่ต้องการควบคุม เห็นอีกฝ่ายเป็นสมบัติส่วนตัว และยอมไม่ได้หากอีกฝ่ายไม่ทำตามที่ตนเองต้องการ ความคุ้นชินนี่แหละที่ทำให้เราเผลอคิดว่าการใช้และการถูกใช้อำนาจเหนือเป็นเรื่องปกติ

อย่างกรณีของ นุ่น ที่ถูกสามีฆ่าและนำศพไปอำพราง https://www.sanook.com/news/9250042 ยิ่งย้อนไทม์ไลน์ต่าง ๆ ก็ยิ่งพบว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นุ่นถูกใช้ความรุนแรง โดยในครั้งนี้ฝ่ายชายอ้างว่าทำไปเพราะความเครียดสะสม หึงหวง ประกอบกับความมึนเมา ขาดสติ เหตุการณ์นี้ทำให้เราเห็นว่าความรุนแรงในครอบครัวขยายขอบเขตและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเหตุฆาตรกรรมน่าสลด

และเมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว หลายคนมักตั้งคำถามว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่ยอมออกจากความสัมพันธ์นั้น? เราอยากให้ทุกคนเข้าใจใหม่ ไม่มีใครอยากอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้น แต่บางสถานการณ์ไม่ได้เอื้อต่อการออกจากความสัมพันธ์ได้ง่าย เช่น บางครอบครัวสามีเป็นฝ่ายหาเงิน ให้ภรรยาทำงานบ้าน เลี้ยงดูลูก การจะต้องยุติความสัมพันธ์ย่อมหมายถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจที่จะตามมา หรือกลัวว่าลูกจะมีปัญหาในอนาคต บางคนถูกอีกฝ่ายข่มขู่ แบลคเมล์ หรือให้ความหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในขณะที่ผู้หญิงบางคนก็ถูกทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่สามารถออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้ว การจะออกจากความสัมพันธ์จึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน

หมั่นสังเกตสัญญาณของความรุนแรงในครอบครัว หลายคนเข้าใจว่าบางพฤติกรรมคือการแสดงออกของความรัก ยิ่งรักมาก ยิ่งหวงมาก ซึ่งในความเป็นจริงนี่คือการแสดงออกถึงการมีอำนาจที่เหนือกว่า และนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในอนาคต โดยสัญญาณของความรุนแรงที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลสรุป มี 3 ข้อ ได้แก่ หึงหวง ควบคุม และตามง้อ (ระรานไม่เลิกรา) เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดสัญญาณเหล่านี้ขึ้นไม่ได้แปลว่าเป็นสัญญาณของความรัก หึงหวงแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ระแวงเมื่ออยู่ใกล้บุคคลอื่น ควบคุมการใช้ชีวิต เช็คโทรศัพท์ บังคับให้แต่งกายมิดชิด ข่มขู่หากไม่ทำตามที่ตัวเองต้องการ หรือแม้จะเลิกกันแล้วอีกฝ่ายก็ยังตามระรานไม่เลิกรา รวมไปถึงพฤติกรรมรุนแรง หรือการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมหลังจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

เพราะปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมีหลายมิติ เราจึงต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจให้กับสังคม สร้างพื้นที่ที่เป็นมิตร ผลักดันกลไกภาครัฐให้เอื้อต่อการออกจากความรุนแรงในครอบครัว รวมไปถึงการสังเกตสัญญาณของความรุนแรงและออกจากความสัมพันธ์ก่อนที่จะนำไปสู่ความรุนแรงที่มากขึ้นได้


บทความที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมรณรงค์วันยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ BBDO ร่วมนำเสนอแคมเปญ "Bring Back Second Chance Of Life คืนโอกาสดี ๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง"
วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ปีนี้มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ BBDO บริษัทเอเจนซี่แนวหน้า นำเสนอแคมเปญ Bring Back Second Chance Of Life คืนโอกาสดี ๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง โดยสื่อสารผ่านการกลับมาของ จีจี้ สุพิชชา
25 พ.ย. 2024
7 ข้อเสนอ ที่ทุกองค์กรต้องมีเพื่อจัดการปัญหาการคุกคามทางเพศ
7 ข้อเสนอ ที่ทุกองค์กรต้องมีเพื่อจัดการปัญหาการคุกคามทางเพศ เพราะปัญหาการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แนวทางเอาผิดทางวินัยของแต่ละองค์กรนั้นยังไม่ละเอียดอ่อนเพียงพอที่จะจัดการกับปัญหานี้ได้
20 พ.ย. 2023
ความสัมพันธ์ทางเพศต้องเกิดจากความยินยอม (Consent)  3 คำจำและนำไปใช้ ASK-LISTEN-RESPECT
Consent หรือการยินยอม คือความเสมอภาคระหว่างเพศ เพราะนั่นหมายถึงความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์ทางเพศต้องมีการตกลงกันอย่างชัดเจน
7 พ.ย. 2023
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy