ร่างกฎหมายภาคประชาชน: แก้ช่องว่าง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว

ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท เลขาธิการสมาคมเพศวิถีศึกษา และตัวแทนเครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ประเทศไทยจะมีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวมาตั้งแต่ปี 2550 แต่ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา กฎหมายยังคงมีช่องว่างและข้อจำกัด ที่ไม่สามารถตอบสนองต่อปัญหาที่ซับซ้อนของผู้เสียหายได้อย่างเพียงพอ
เธออธิบายว่า "กฎหมายฉบับปัจจุบัน เน้นรักษาสถาบันครอบครัวมากกว่าคุ้มครองผู้ถูกกระทำ" เช่น กำหนดให้ศาลต้องพยายามไกล่เกลี่ย แม้ในกรณีที่ผู้เสียหายต้องการยุติความสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยของตนเอง อีกทั้งบทลงโทษยังเบากว่าการทำร้ายบุคคลทั่วไปตามกฎหมายอาญา เช่น จากโทษจำคุก 2 ปี ลดเหลือเพียง 6 เดือนเมื่อเกิดขึ้นภายในครอบครัว นำไปสู่ความลักลั่นของกฎหมายและทำให้ผู้เสียหายเสียโอกาสที่จะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม
ร่างกฎหมายใหม่: เสียงจากภาคประชาชน
จากประสบการณ์ทำงานขององค์กรภาคประชาสังคม 13 แห่งที่ทำงานด้านการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความรุนแรง จึงได้ร่วมกันจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว (ฉบับภาคประชาชน) เพื่ออุดช่องว่างสำคัญของกฎหมายเดิม โดยมีสาระสำคัญคือ
- เน้นความปลอดภัยของผู้ถูกกระทำเป็นอันดับแรก กำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยเหลือภายใน 24 ชั่วโมงหลังได้รับแจ้ง
- มาตรการคุ้มครองต่อเนื่อง ศาลสามารถออกคำสั่งควบคุม ปรับพฤติกรรมของผู้กระทำไม่ให้ก่อเหตุซ้ำ แม้หลังคดีสิ้นสุด รวมถึงเพิ่มโทษหากมีการกระทำผิดซ้ำ
- กลไกใหม่ในการดูแล กำหนด ผู้จัดการรายกรณี และ ทีมสหวิชาชีพ เพื่อดูแลเคสอย่างต่อเนื่องและรอบด้าน
- เพิ่มความเข้มแข็งของกระบวนการยุติธรรม ผู้กระทำต้องรับผิดชอบตามกฎหมายอาญาเช่นเดียวกับการทำร้ายผู้อื่นทั่วไป ไม่ใช่ลดโทษเพียงเพราะอยู่ในครอบครัว
- การยอมความต้องคุ้มครองผู้เสียหาย กำหนดเงื่อนไข มาตรการที่รัดกุม เพื่อความปลอดภัยของผู้ถูกกระทำ
"กฎหมายนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแก้ไขถ้อยคำ แต่คือการปรับหลักการให้ ผู้เสียหายได้รับความคุ้มครองจริง และผู้กระทำต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง" ดร.วราภรณ์กล่าว
26,729 รายชื่อ: สะท้อนการสนับสนุนจากสังคม
ร่างกฎหมายภาคประชาชนดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแล้วกว่า 26,729 รายชื่อ มากกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำ 10,000 รายชื่อตามกฎหมาย แสดงให้เห็นถึงความต้องการของสังคมที่อยากเห็นกฎหมายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เธอย้ำว่า เครือข่ายฯ จะนำร่างกฎหมายพร้อมรายชื่อประชาชนไปยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรในเร็ว ๆ นี้ พร้อมคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะให้ความสำคัญ เร่งผลักดันให้ร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาโดยเร็ว
"เมื่อกฎหมายของฝั่งรัฐบาลเข้าสู่สภา กฎหมายภาคประชาชนก็จะไปรออยู่แล้วเช่นกัน ที่สำคัญการเร่งแก้กฎหมาย คือการไม่เพิกเฉยต่อความรุนแรงในครอบครัว" ดร.วราภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
เครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย 13 องค์กร ได้แก่
1. แผนงานสุขภาวะผู้หญิงฯ สมาคมเพศวิถีศึกษา
2. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล
3. องค์กร SHero Thailand
4. องค์กร Feminist Legal Support
5. มูลนิธิเพื่อนหญิง
6. สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉิน)
7. มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม
8. มูลนิธิรักษ์ไทย
9. มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ (for-sogi)
10. มูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร
11. มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว
12. เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน
13. มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
-----
บทความจากงานเสวนา กฎหมายจะช่วยยุติความรุนแรงทางเพศและความรุนแรงในครอบครัวได้อย่างไร? วันอังคารที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 10:00-12:00 น. ห้องวีนัส โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น


