แชร์

ถอดรหัสความรักกับความรุนแรง

อัพเดทล่าสุด: 13 มิ.ย. 2024
639 ผู้เข้าชม

(เผยแพร่บทความเมื่อ 2 ธันวาคม 2565)

หากเรามองความรักเพียงผิวเผิน เราจะมองเพียงแค่ความโรแมนติก การได้ครอบครอง และบริบทการปลูกฝังของสังคม การขาดเสรีภาพ ยิ่งนำไปสู่การใช้ความรุนแรงได้อย่างไม่ยากเย็น แต่หากเรามองให้ลึก เข้าใจให้ถ่องแท้ เราจะเห็นอีกภาพของความสัมพันธ์ ดร.ชเนตตี ทินนาม อาจารย์ประจำภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถอดรหัสของความรักได้อย่างชัดเจน และทำให้เราเขาใจว่า ทำไมความรักถึงนำไปสู่ความรุนแรงได้

ความรักโรแมนติกจะมาพร้อมการคาดหวังความสมบูรณ์แบบ หลายครั้งเวลาเมื่อความรุนแรง ความรักจะถูกหยิบยืมในนามของอาวุธ

“ความรุนแรงที่เกิดจากความรัก ไม่ควรเรียกว่าความรัก เพราะความรักจะไม่มาพร้อมความรุนแรง เมื่อพูดถึงความรักมันฟังดูอ่อนนุ่มและโรแมนติก ดูเป็นความปรารถนาดี ซึ่งจริง ๆ เราเข้าใจนิยามความรักผิดพลาด เราจัดวางขั้วของความรักให้เป็นเรื่องโรแมนติก ซึ่งความโรแมนติกมันมีพลังทำลายล้างสูงมาก เมื่อความรักถูกมาพร้อมกับความโรแมนติกมันจะเรียกร้องความสมบูรณ์ทุกอย่าง อย่างเช่น เธอต้องพิสูจน์รักแท้ แล้วมันจะมาพร้อมกับความคาดหวังว่าเขาต้องตามใจเราทุกอย่าง เขาต้องยอมรับในตัวเราให้ได้ เพราะนี่คือรักแท้ ซึ่งมันขัดต่อสัจธรรมและธรรมชาติในการใช้ชีวิตของมนุษย์”

“หลายครั้งเวลาเกิดความรุนแรง ความรักจะถูกหยิบยืมในนามของอาวุธ ที่จะมาทำร้ายคู่ชีวิต คู่รัก หรือความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น ๆ เพราะว่าเราไปเข้าใจผิดว่านี่คือสิ่งที่คู่รักต้องสนองตอบในลักษณะแบบนี้ สังหารในนามของความรัก ลงทัณฑ์ในนามของความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก”

มนุษย์เราอยู่กันด้วยความแตกต่าง เมื่อความรักไม่สามารถตอบสนองในความแตกต่างได้ จึงนำมาซึ่งการใช้ความรุนแรง

“ความรักเป็นเพียงแค่เรื่องสมมุติ สังคมสร้างขึ้นมาเพื่อปลอบประโลม หลายคนที่ไม่สามารถยึดเหนี่ยวตัวเองได้ ต้องเสาะแสวงหาการยึดเหนี่ยวจากคนอื่น แต่ความรักจากคนอื่นก็ไม่สามารถเติมเต็มเราได้ เพราะมนุษย์เราอยู่กันด้วยความแตกต่าง เราเกิดมาท่ามกลางความแตกต่างและความเป็นตัวเอง เมื่อความรักไม่สามารถตอบสนองในความแตกต่างที่เราต้องการ จึงนำมาซึ่งการใช้ความรุนแรง”

ความรักที่แท้จริงต้องเป็นความสัมพันธ์ที่เท่าเทียม

“ความรุนแรงไม่ใช่ความรัก เพราะความรักที่แท้จริงต้องเป็นความสัมพันธ์ที่เท่าเทียม เมื่อไหร่ก็ตามที่ความรักของคนสองคนไม่สมดุลและไม่เท่าเทียม มันจะไม่ใช่ความรัก ปลายทางของความรักต้องนำคนสองคนไปสู่จุดสูงสุดของความเป็นมนุษย์ นั่นคือเสรีภาพ อำนาจที่เท่ากันนั้นจะทำให้มนุษย์เรามีความสัมพันธ์ที่พบอิสรภาพและเสรีภาพ”

สังคมไม่มีเสรีภาพที่แท้จริงจะไม่เข้าใจถึงการมีความรักที่ให้อิสระ

“เสรีภาพและอิสรภาพเป็นเรื่องที่หล่อหลอมในสำนึกของคนได้ยากมาก ตราบใดที่สังคมเราแวดล้อมไปด้วยสิ่งที่เราไม่คุ้นชินกับเสรีภาพเลย เพราะเราใช้อำนาจกดข่มกันตลอดเวลาเพื่อที่จะใช้ให้อีกฝ่ายทำตามความต้องการของเรา เพราะฉะนั้นเราอยู่ในสังคมที่ไม่เคยมีเสรีภาพจริง ๆ เราจึงไม่เข้าใจว่าการมีความรักที่ให้อิสระต่อกันมันคืออะไร เพราะอยู่ในสังคมที่มีฐานของอำนาจนิยมอยู่ในทุกระบบ ทุกอณูของสังคม ตั้งแต่การเมืองในทุก ๆ ระดับที่มันส่งผลต่อชีวิตเรา จนทำให้เราไม่เคยสัมผัสคำว่าเสรีภาพ”

ความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมนำไปสู่ความรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า

“เมื่อมีความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม อิสระจึงไม่เกิด เป็นเรื่องที่ต้องมาชอกช้ำทุกครั้งเวลาที่เราต้องรับรู้เรื่องราวความรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ที่มาในนามที่ว่า -เพราะฉันรักเธอเกินไป- จนกระทั่งนำไปสู่จุดที่เราพูดว่าเราจะรักกันจนตาย ใช่ มันอาจจะมีบางชีวิตที่ต้องจากไปก่อน และนี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หรือไม่ใช่เพียงอุทาหรณ์สอนใจจากละครชีวิตเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เป็นปัญหาใหญ่ของสังคม”

สุดท้ายเราต้องเพิ่มหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่อง "ความสัมพันธ์"

“ความรักควรเป็นเรื่องของการเสี้ยมสอนปลูกฝังโดยสังคม ควรมีหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาความรัก ทั้งการสร้างมนุษยสัมพันธ์ และ -การออกจากความสัมพันธ์- ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก การศึกษาเราไม่เคยให้พลเมืองรู้เรื่องเหล่านี้เลย เราให้พวกเขาไปตามชะตากรรม ไปเรียนรู้กันเอาเอง มันจึงเกิดปัญหาจากเรื่องเหล่านี้ จากความรักครั้งหนึ่งเคยร่วมชีวิตกัน เคยเป็นคนที่รักกันมาก พอถึงวันที่จะเลิกกัน ทำไมรักที่เคยมากที่สุดวันนั้นมันจึงกลายเป็นยาขม กลายเป็นการจบชีวิตของอีกฝ่าย และอีกฝ่ายต้องเข้าเรือนจำ กลายเป็นตอนจบที่ขมขื่น จะต้องมีผู้หญิง ผู้ชายตกอยู่ในวงจรอีกมากมายเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้สอนกันเรื่องลาจากในความสัมพันธ์”


บทความที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมรณรงค์วันยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ BBDO ร่วมนำเสนอแคมเปญ "Bring Back Second Chance Of Life คืนโอกาสดี ๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง"
วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ปีนี้มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับ BBDO บริษัทเอเจนซี่แนวหน้า นำเสนอแคมเปญ Bring Back Second Chance Of Life คืนโอกาสดี ๆ ให้ตัวเอง และเลิกให้โอกาสที่ 2 กับความรุนแรง โดยสื่อสารผ่านการกลับมาของ จีจี้ สุพิชชา
25 พ.ย. 2024
7 ข้อเสนอ ที่ทุกองค์กรต้องมีเพื่อจัดการปัญหาการคุกคามทางเพศ
7 ข้อเสนอ ที่ทุกองค์กรต้องมีเพื่อจัดการปัญหาการคุกคามทางเพศ เพราะปัญหาการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แนวทางเอาผิดทางวินัยของแต่ละองค์กรนั้นยังไม่ละเอียดอ่อนเพียงพอที่จะจัดการกับปัญหานี้ได้
20 พ.ย. 2023
ความสัมพันธ์ทางเพศต้องเกิดจากความยินยอม (Consent)  3 คำจำและนำไปใช้ ASK-LISTEN-RESPECT
Consent หรือการยินยอม คือความเสมอภาคระหว่างเพศ เพราะนั่นหมายถึงความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์ทางเพศต้องมีการตกลงกันอย่างชัดเจน
7 พ.ย. 2023
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy