Last updated: 23 ก.ย. 2565 | 1931 จำนวนผู้เข้าชม |
สถานการณ์การล่วงละเมิดทางเพศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้กระทำเป็นผู้ที่มีอำนาจ เพียงระยะเวลาไม่ถึงห้าเดือนที่ผ่านมา เราพบว่ามีนักการเมืองที่ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงนับสิบราย ต่อด้วยนักการเมืองท้องถิ่น หลานนักการเมือง และยังมีข้าราชการ ครู ทหาร ตำรวจ พระสงฆ์ ซึ่งล้วนเป็นผู้มีอำนาจ สะท้อนภาพการใช้อำนาจเหนือ และอำนาจชายเป็นใหญ่ต่อผู้กระทำที่มีอำนาจต่อรองน้อยกว่า
อำนาจนิยมในสังคมไทยที่ระบบยุติธรรมปกติล้มเหลว ใช้ไม่ได้ผล ผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่ใช้สื่อกระแสหลัก และสื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือสื่อสาร เพื่อขอความช่วยเหลือ เผยแพร่ข้อมูลให้ระบบยุติธรรมทำงานและคุ้มครองผู้ถูกกระทำ ในขณะที่บางส่วนเลิกใช้ระบบยุติธรรมและเลือกที่จะนิ่งเงียบ
เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดที่นายทหารใช้อำนาจพยายามข่มขืนผู้เสียหายในบ้านพัก ผู้ถูกกระทำต้องพยายามอย่างมากในการช่วยเหลือตนเองไม่ให้เรื่องเงียบ ให้ทนายช่วยแจ้งความ ใช้สื่อออนไลน์เพื่อให้สังคมสนใจ เพราะผู้กระทำมีอำนาจ มีอิทธิพล เป็นเด็กนาย และพ่อเป็นคนใหญ่โต เหมือน ๆ กับหลายกรณีของการคุกคามทางเพศในห้วงที่ผ่านมา
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น กองทับบกควรเข้าไปแก้ปัญหาในหน่วยงาน ดังนี้
1. คดีนี้ต้องไม่ขึ้นศาลทหาร เนื่องจากที่ผ่านมามูลนิธิฯ เคยเข้าไปช่วยเหลือเหตุการณ์ที่คล้ายกัน แต่เมื่อขึ้นศาลทหารกลับทำอย่างล่าช้า มีแนวโน้มจะช่วยเหลือกัน
2. หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยผู้กระทำ ที่เป็นกลาง คณะกรรมการต้องไม่มาจากหน่วยงานเดียวกัน มีผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาร่วมพิจารณา และช่วยเหลือเยียวยาผู้ถูกกระทำให้ได้รับความเป็นธรรม
3. กองทับบกต้องตั้งกลไก ในการป้องกัน คุ้มครอง และเยี่ยวยา การคุกคามทางเพศในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย รวมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้แก่บุคลากร
4. ปฏิรูประบบยุติธรรมศาลทหาร ที่ไม่ใช้ศาลทหารกับการทำผิดเรื่องเพศ และความรุนแรงในครอบครัว หรือคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับพลเรือน ให้นำไปสู่การใช้ศาลพลเรือน
การจะแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ และการช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ สังคมต้องเข้าใจรากของปัญหาที่มาจากความคิดแบบชายเป็นใหญ่ และการใช้อำนาจเหนือ ที่สำคัญองค์กรที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของการใช้อำนาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและแสดงให้สังคมเห็นว่าจริงจังต่อการแก้ปัญหานี้…แค่ไหน
14 ก.พ. 2566