(เผยแพร่บทความเมื่อ 18 มกราคม 2564)
ถือเป็นข่าวสะเทือนวงการตำรวจ (อีกครั้ง) เมื่อผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศผู้ต้องขังหญิงชาวเมียนมา อายุ 21 ปี ช่วงกลางดึกของวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา (อ่านข่าวที่นี่)
เรื่องนี้คุณจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรกเพิ่งเกิดขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิง และผู้ที่เป็นแรงงานข้ามชาติมาตลอด “ผู้หญิงและแรงงานข้ามชาติไร้ซึ่งอำนาจในการต่อรอง บางทีเจอผู้ต้องขังที่เป็นผู้หญิงและมีปัญหาเรื่องทำผิดกฎหมายด้วย ตำรวจหลายคนก็เคยทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเรื่องเหล่านี้มักเกิดจากคนที่มีอำนาจเหนือประกอบแรงผลักจากระบบคิดแบบชายเป็นใหญ่”
จากกรณีนี้เราจะเห็นปัญหาสำคัญ 3 อย่าง นั่นคือ
- การใช้อำนาจชายเป็นใหญ่ “ผู้ชายส่วนหนึ่งถูกปลูกฝังเรื่องเพศมาว่าเมื่อมีความต้องการทางเพศ สามารถแสดงออกได้เลย ไม่ต้องยับยั้งชั่งใจ หรือเวลามีแฟนถ้าผู้ชายมีความสัมพันธ์ได้ไวคนนั้นก็จะกลายเป็นคนเก่ง น่ายกย่อง เพราะฉะนั้นผู้ชายก็เลยถูกปลูกฝังในเรื่องเพศแบบผิด ๆ การปลูกฝังมาแบบนี้จึงทำให้ผู้ชายไม่มีการยับยั้งชั่งใจในเรื่องเพศ แม้ว่าในปัจจุบันเราจะพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น และพยายามปรับทัศนคติเหล่านี้ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด”
- การใช้อำนาจเหนือกว่า “ผู้ชายส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังให้ตัวเองอยู่เหนือกว่า เช่น ในครอบครัวจะสอนให้ผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนที่มีอำนาจเหนือกว่าทุกคน ทำงานหาเงิน ไม่ต้องทำงานบ้าน เป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง ซึ่งรองจากอำนาจชายเป็นใหญ่แล้ว การมีอำนาจที่เหนือกว่าถือเป็นปัญหาสำคัญ อย่างกรณีนี้ผู้กระทำใช้อำนาจความเป็นตำรวจถือโอกาสล่วงละเมิดทางเพศหญิงข้ามชาติที่ไม่มีอำนาจต่อรอง หรือแม้แต่ในอีกหลาย ๆ กรณีที่เกิดจากการใช้อำนาจเหนือ ครูล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน หัวหน้างานล่วงละเมิดทางเพศลูกน้อง หรือแม้แต่คนในครอบครัว พ่อข่มขืนลูกโดยใช้อำนาจความเป็นพ่อ ลูกต้องตอบแทนบุญคุณ ห้ามมีปากเสียง หรือแจ้งความ วัฒนธรรมทางสังคมที่ทำให้ผู้หญิงต้องจำยอมกับพฤติกรรมของเพศชายที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจเหนือทั้งสิ้น”
- ความเป็นผู้ต้องขังหญิงข้ามชาติทำให้ไม่สามารถต่อรองได้ “หญิงชาวเมียนมาจำนวนมาก เข้ามาประเทศไทยในฐานะแรงงานข้ามชาติ แม้ว่าจะทำงานแลกเงิน แต่กลับถูกกดทับด้วยปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะทัศนคติที่มีต่อแรงงานข้ามชาติ เมื่อผู้หญิงกลุ่มนี้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีตัวตนและด้วยเป็นคนที่มาจากต่างประเทศ ประกอบกับทำผิดกฎหมายด้วย เมื่อถูกตำรวจล่วงละเมิดทางเพศจึงตกอยู่ในภาวะจำยอม ไม่สามารถมีปากมีเสียงได้”
การแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศโดยใช้กฎหมายลงโทษเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะต้นทางของปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข “ระบบคิดแบบชายเป็นใหญ่และการใช้อำนาจเหนือต้องถูกลดทอน และแทนที่ด้วยการปลูกฝังความเท่าเทียมระหว่างเพศ การเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย และสิทธิความเป็นมนุษย์”